ERR_SSL_PROTOCOL_ERROR คืออะไร?
ERR_SSL_PROTOCOL_ERROR คือข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยเมื่อพยายามเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่ใช้ SSL (Secure Sockets Layer) เพื่อเข้ารหัสข้อมูล ข้อผิดพลาดนี้อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาการตั้งค่า SSL บนเซิร์ฟเวอร์เว็บไซต์ ปัญหาที่เบราว์เซอร์ของคุณ หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย
ERR_SSL_PROTOCOL_ERROR แสดงผลอย่างไรบนเบราว์เซอร์ต่างๆ?
1. Google Chrome
- ข้อความแจ้งเตือน: “This site can’t provide a secure connection” หรือ “ERR_SSL_PROTOCOL_ERROR”
- ปกติจะแสดงไอคอนล็อกสีแดงบนแถบที่อยู่ URL พร้อมปุ่ม “Advanced” เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
2. Mozilla Firefox
- ข้อความแจ้งเตือน: “Secure Connection Failed” หรือ “SSL_ERROR_PROTOCOL_ERROR”
- Firefox อาจแนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบใบรับรอง SSL และการตั้งค่าเครือข่าย
3. Microsoft Edge
- ข้อความแจ้งเตือน: “Can’t connect securely to this page”
- Edge จะแนะนำให้ผู้ใช้ลองรีเฟรชหน้าเว็บหรือแจ้งให้เจ้าของเว็บไซต์ตรวจสอบการตั้งค่า SSL
4. Safari (macOS & iOS)
- ข้อความแจ้งเตือน: “Safari Can’t Open the Page” หรือ “This Connection Is Not Private”
- Safari จะเตือนว่าการเชื่อมต่อนี้อาจไม่ปลอดภัย และอาจแนะนำให้ผู้ใช้กลับไปยังหน้าเว็บก่อนหน้า
สาเหตุของ ERR_SSL_PROTOCOL_ERROR
- ใบรับรอง SSL ไม่ถูกต้องหรือหมดอายุ – หากใบรับรอง SSL ของเว็บไซต์หมดอายุหรือไม่ได้รับการออกจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดนี้
- เบราว์เซอร์มีแคชหรือคุกกี้ที่ผิดพลาด – ข้อมูลที่ถูกแคชหรือคุกกี้ที่เสียหายอาจทำให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อ SSL
- การตั้งค่าเวลาและวันที่ไม่ถูกต้อง – เวลาและวันที่บนคอมพิวเตอร์ของคุณต้องตรงกับเวลาปัจจุบัน มิฉะนั้น SSL อาจไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างถูกต้อง
- การตั้งค่าโปรโตคอล SSL และ TLS ไม่ถูกต้อง – หากโปรโตคอล TLS หรือ SSL ถูกปิดใช้งานในเบราว์เซอร์ อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดนี้ได้
- ไฟร์วอลล์หรือแอนตี้ไวรัสบล็อกการเชื่อมต่อ SSL – ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยบางตัวอาจปิดกั้นการเชื่อมต่อ SSL ทำให้เบราว์เซอร์ไม่สามารถตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์ได้
- เซิร์ฟเวอร์ SSL ไม่รองรับโปรโตคอลที่เบราว์เซอร์ต้องการ – หากเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้รองรับเวอร์ชัน TLS ที่ทันสมัย อาจทำให้เบราว์เซอร์ไม่สามารถเชื่อมต่อได้
วิธีแก้ไข ERR_SSL_PROTOCOL_ERROR
1. ตรวจสอบการตั้งค่าเวลาและวันที่ของอุปกรณ์
- ไปที่ Settings > Time & Language > Date & Time บน Windows
- บน macOS ไปที่ System Preferences > Date & Time
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเวลาและวันที่ถูกต้อง และตั้งค่าเป็น “อัตโนมัติ”
2. ล้างแคชและคุกกี้ของเบราว์เซอร์
- สำหรับ Google Chrome:
- ไปที่ Settings > Privacy and Security > Clear Browsing Data
- เลือก “Cookies and other site data” และ “Cached images and files”
- กด “Clear data”
3. อัปเดตหรือเปลี่ยนเบราว์เซอร์
- ลองอัปเดต Chrome, Firefox, หรือ Edge เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- หากยังพบปัญหา ให้ลองใช้เบราว์เซอร์อื่นเพื่อดูว่าเกิดข้อผิดพลาดเดียวกันหรือไม่
4. ปิดไฟร์วอลล์หรือแอนตี้ไวรัสชั่วคราว
- หากใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส เช่น Avast หรือ Kaspersky ให้ลองปิดการสแกน HTTPS ชั่วคราว
- ใน Windows ให้ไปที่ Control Panel > System and Security > Windows Defender Firewall และปิดไฟร์วอลล์ชั่วคราวเพื่อทดสอบการเชื่อมต่อ
5. เปิดใช้งานโปรโตคอล TLS และ SSL กรณีปิดไว้
- ใน Google Chrome:
- ไปที่ chrome://flags และค้นหา “TLS”
- เปิดใช้งาน TLS 1.2 และ TLS 1.3
6. ตรวจสอบใบรับรอง SSL ของเว็บไซต์
- ใช้เครื่องมือออนไลน์ เช่น SSL Checker เพื่อตรวจสอบว่าใบรับรอง SSL ของเว็บไซต์ใช้งานได้ปกติหรือไม่
7. รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย
- เปิด Command Prompt (cmd) และใช้คำสั่งต่อไปนี้:
netsh int ip reset
netsh winsock reset
ipconfig /flushdns
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์แล้วลองเข้าเว็บไซต์อีกครั้ง
8. ตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์
- หากคุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์ ตรวจสอบในเซิร์ฟเวอร์ หรือ Web Hosting ของคุณว่าใบรับรอง SSL ถูกติดตั้งอย่างถูกต้องหรือไม่
- ใช้ Let’s Encrypt หรือบริการออกใบรับรอง SSL ที่เชื่อถือได้
- อัปเดตซอฟต์แวร์เซิร์ฟเวอร์ให้รองรับ TLS เวอร์ชันล่าสุด
ERR_SSL_PROTOCOL_ERROR อาจเกิดจากปัญหาหลายประการ แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีที่กล่าวมาข้างต้น หากคุณยังคงพบปัญหา ควรติดต่อผู้ให้บริการ Web Hosting หรือตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของเบราว์เซอร์และเครือข่ายของคุณ การใช้ใบรับรอง SSL ที่เชื่อถือได้และการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหา SSL ในอนาคตได้
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหา ERR_SSL_PROTOCOL_ERROR ในเว็บไซต์ของคุณ ขอแนะนำให้ลองใช้บริการ Web Hosting จาก VisperHost พร้อมฟรี SSL Certificates และการช่วยเหลือจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเรา