โดเมนคืออะไร? | ความหมายของโดเมนแต่ละนามสกุล

domain

โดเมนเนม (Domain Name)

โดเมนเนม หมายถึง ชื่อที่ใช้ระบุที่อยู่ของเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงและจดจำ แทนที่จะต้องใช้ตัวเลขที่เป็นรหัส IP Address เช่น www.example.com โดยโดเมนเนมประกอบด้วยสองส่วนหลักคือ ชื่อโดเมน (Domain Name) และนามสกุลของโดเมน (Domain Extension)


นามสกุลของโดเมน (Domain Extensions) หรือ Top-Level Domain (TLD)

นามสกุลของโดเมน คือ ส่วนที่ต่อท้ายของชื่อโดเมน เช่น .com, .org, .net โดยแต่ละนามสกุลมีความหมายและการใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ยังมีการแบ่งประเภทของ TLD ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ:

  1. gTLDs (Generic Top-Level Domains): นามสกุลทั่วไป เช่น .com, .org, .net
  2. ccTLDs (Country Code Top-Level Domains): นามสกุลที่อ้างอิงถึงประเทศ เช่น .th, .uk, .us

ตัวอย่างและความหมายของนามสกุลโดเมน เช่น

  • .com (Commercial):
    ใช้สำหรับเว็บไซต์เชิงพาณิชย์หรือธุรกิจ นิยมใช้มากที่สุดในโลก
  • .org (Organization):
    เหมาะสำหรับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เช่น มูลนิธิ สมาคม หรือโครงการเพื่อสังคม
  • .net (Network):
    เดิมทีถูกออกแบบมาสำหรับองค์กรเกี่ยวกับเครือข่าย ปัจจุบันนิยมใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์
  • .edu (Education):
    ใช้สำหรับสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัย หรือโรงเรียน
  • .gov (Government):
    ใช้สำหรับหน่วยงานราชการ เช่น กรม กระทรวง หรือสำนักงานรัฐบาล
  • .info (Information):
    เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่เน้นการให้ข้อมูล ความรู้ หรือสาระต่าง ๆ
  • .me (Personal):
    เหมาะสำหรับเว็บไซต์ส่วนบุคคล เช่น บล็อกส่วนตัวหรือผลงานส่วนตัว
  • .io (Indian Ocean):
    ปัจจุบันนิยมใช้ในกลุ่มเทคโนโลยี สตาร์ทอัพ และนักพัฒนา

นามสกุลเฉพาะประเทศ (Country Code Top-Level Domain – ccTLD) เช่น

  • .th (Thailand):
    ใช้สำหรับโดเมนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย โดยมีการแบ่งย่อยตามประเภท เช่น:

    • .in.th: สำหรับบุคคลทั่วไป
    • .co.th: สำหรับองค์กรพาณิชย์
    • .ac.th: สำหรับสถานศึกษา
    • .go.th: สำหรับหน่วยงานรัฐบาล
    • .or.th: สำหรับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในประเทศไทย
  • .uk (United Kingdom):
    ใช้สำหรับโดเมนที่เกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักร เช่น .co.uk สำหรับองค์กรธุรกิจ หรือ .ac.uk สำหรับสถาบันการศึกษา
  • .jp (Japan):
    ใช้สำหรับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศญี่ปุ่น เช่น องค์กรหรือบุคคลในประเทศญี่ปุ่น

การเลือกชื่อโดเมนที่เหมาะสม

การเลือกชื่อโดเมนควรคำนึงถึง:

  1. ความเรียบง่าย: ควรสั้น กระชับ และจำง่าย
  2. สื่อความหมาย: ควรสะท้อนเนื้อหาหรือธุรกิจของเว็บไซต์
  3. เหมาะสมกับนามสกุล: เลือกนามสกุลที่ตรงกับวัตถุประสงค์ เช่น .edu สำหรับสถาบันการศึกษา หรือ .co.th สำหรับองค์กรธุรกิจในประเทศไทย

เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนโดเมน

ประเภทของโดเมน และเอกสารที่ใช้จะแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์และนามสกุลของโดเมน เช่น:

1. โดเมนทั่วไป (gTLDs เช่น .com, .net, .org)

  • ไม่ต้องใช้เอกสารพิเศษ
  • ใช้ข้อมูลผู้ขอจดทะเบียน เช่น ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, และเบอร์โทรศัพท์

2. โดเมนระดับประเทศ (ccTLD เช่น .th)

ต้องใช้เอกสารเพิ่มเติมตามประเภท เช่น:

  • .in.th:
    • สำเนาบัตรประชาชนของบุคคลทั่วไป หรือสำเนาหนังสือรับรองบริษัท
  • .co.th:
    • หนังสือรับรองบริษัท (Certificate of Incorporation) ที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์
    • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ดำเนินการ
  • .ac.th:
    • หนังสืออนุญาตหรือเอกสารรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • .go.th:
    • หนังสืออนุญาตจากผู้บริหารหน่วยงาน
    • หนังสือรับรองหรือเอกสารจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

ข้อแนะนำในการจดทะเบียนโดเมน

  1. ตรวจสอบความพร้อมของชื่อโดเมนที่ต้องการจดทะเบียน
  2. เลือกผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนที่เชื่อถือได้
  3. จดทะเบียนโดเมนล่วงหน้า เพื่อป้องกันชื่อที่ต้องการถูกจองโดยผู้อื่น
  4. ต่ออายุโดเมนตรงเวลา เพื่อป้องกันการหมดอายุและสูญเสียชื่อโดเมน

สรุป: โดเมนเนมและนามสกุลของโดเมนเป็นส่วนสำคัญของเว็บไซต์ การเลือกชื่อและนามสกุลที่เหมาะสมรวมถึงการจัดเตรียมเอกสารอย่างครบถ้วนจะช่วยให้การจดทะเบียนเป็นไปอย่างราบรื่นและสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจหรือองค์กรของคุณ